ลิเวอร์พูล ได้ประตูชัยอันล้ำค่าจาก เดยัน ลอฟเรน เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ พลิกเชือด “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แบบเหลือเชื่อ 4-3 ที่สนาม แอนฟิลด์ คืนวันพฤหัสบดีที่ 14 เมษายน ที่ผ่านมา เข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ศึก ยูฟา ยูโรปา ลีก สกอร์รวม 2 นัด 5-4
ยูฟา ยูโรปา ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย เลก 2
ลิเวอร์พูล 4-3 ดอร์ทมุนด์ (รวม 2 นัด ลิเวอร์พูล ชนะ 5-4)
เจอร์เกน คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ซึ่งต้องการผลเสมอ 0-0 เป็นอย่างน้อย วาง ดิว็อค โอริกี รับบทศูนย์หน้าตัวเป้า ประสานงาน โรแบร์โต เฟอร์มิโน, ฟิลิปเป คูตินโญ และ อดัม ลัลลานา ล่าตาข่าย รับมือ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่มี ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง, มาร์โก รอยส์ และ ชินจิ คากาวะ เป็นทีเด็ดแนวรุก
เสียงนกหวีดดังขึ้น โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ใช้เวลาแค่ 5 นาที ขึ้นนำ 1-0 กอนซาโล คาสโตร กระดกจากขวาเข้ากลาง ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ยิงจ่อ ๆ ซิมง มิโญเลต์ นายทวาร ปัดไม่พ้นอันตราย เฮนริกห์ เอ็มคิทาร์ยาน ซ้ำดาบสอง ถัดมา 4 นาที มาร์โก รอยส์ แทงออกขวาตัดหลัง มามาดู ซาโก ให้ โอบาเมย็อง หลุดเดี่ยว ยิงยัดเสาแรก หนีไปเป็น 2-0
รูปเกม ลิเวอร์พูล เริ่มกระเตื้อง นาที 27 ฟิลิปเป คูตินโญ รับบอลเตะมุมสั้นฝั่งซ้าย ตักไปให้ โรแบร์โต เฟอร์มิโน คู่หูบราซิเลียน สะบัดเฉี่ยวเสาแรก ดอร์ทมุนด์ ตั้งหลักเคาะกันสั้น ๆ เน้นความแน่นอนจนเกือบบวกเพิ่มนาที 43 ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง เปิดยัดจากริมเส้นด้านขวา ชินจิ คากาวะ สะกิดตรงเสาแรก ซิมง มิโญเลต์ ตะครุบไว้ทัน
ครึ่งหลังเริ่มมา 3 นาที สาวก “เดอะ ค็อป” ชักมีความหวัง เอ็มเร คาน ทำชิ่งกับเพื่อน 2 จังหวะ แล้วแทงเจาะตรงกลางให้ ดิว็อค โอริกี จิ้มลอดขา โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ นายทวาร ตีตื้นเป็น 1-2 “เสือเหลือง” อยู่เฉยไม่ได้ ต้องบดใส่ทันที นาที 57 มัตส์ ฮุมเมิลส์ กัปตันทีม ดันขึ้นสูง จ่ายทะลุช่องให้ มาร์โก รอยส์ ตัดจากด้านซ้าย แปเสียบโคนเสาไกล ทิ้งห่างเป็น 3-1
“หงส์แดง” ยังไม่ละความพยายาม นาที 66 ฟิลิปเป คูตินโญ ทำชิ่งกับ เจมส์ มิลเนอร์ กัปตันทีม ได้ช่องสับไกตรงหัวกะโหลก บอลพุ่งเรียดเสียบมุมขวามือ ไล่มาเป็น 2-3 จากนั้นก็ออกอาการคึกคัก พับสนามบุกนาที 78 คูตินโญ เปิดเตะมุมฝั่งซ้าย มามาดู ซาโก ย่อตัวสะบัดระยะเผาขน ตีเสมอเป็น 3-3
เกมทำท่าจะจบลงด้วยผลเสมอ ทว่าเป็นกองเชียร์ เจ้าถิ่น ส่งเสียงเฮลั่นสนาม ช่วงทดเจ็บ เจมส์ มิลเนอร์ เติมมารับบอลตรงเขตโทษด้านขวา ตักลึกไปเสาสอง เดยัน ลอฟเรน โขกให้ ลิเวอร์พูล พลิกขึ้นนำ และเอาชนะไป 4-3 สกอร์รวม 2 นัด 5-4
รายชื่อ 11 ตัวจริง
ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโญเลต์ , นาธาเนียล ไคลน์ , เดยัน ลอฟเรน , มามาดู ซาโก , อัลแบร์โต โมเรโน , เจมส์ มิลเนอร์ , ฟิลิปเป คูตินโญ , โรแบร์โต เฟอร์มิโน , อดัม ลัลลานา , เอ็มเร คาน , ดิว็อค โอริกี
ดอร์ทมุนด์ : โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ , มัตส์ ฮุมเมิลส์ , โซคราติส ปาปาสทาโธปูลอส , ลูคัสซ์ พิสซ์เช็ก , มาร์เซล ชเมลเซอร์ , เฮนริกห์ เอ็มคิทาร์ยาน , มาร์โก รอยส์ , ชินจิ คากาวะ , กอนซาโล คาสโตร , จูเลียน ไวเกิล , ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง
ผลฟุตบอล ยูฟา ยูโรปา ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย เลก 2 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 14 เมษายน
ชัคเตอร์ โดเนตส์ก 4-0 บรากา (รวม 2 นัด ชัคเตอร์ฯ ชนะ 6-1)
[1-0 ดาริโย เซอร์นา (จุดโทษ) น.25 , 2-0 ริคาร์โด แฟร์ไรรา (ทำเข้าประตูตัวเอง) น.42 , 3-0 วิกเตอร์ โควาเลนโก น.50 , 4-0 ริคาร์โด แฟร์ไรรา (ทำเข้าประตูตัวเอง) น.73]
สปาร์ตา ปราก 2-4 บียาร์รีล (รวม 2 นัด บียาร์รีล ชนะ 6-3)
[0-1 เซดริค บากัมบู น.5 , 0-2 ซามูเอล คาสติเยโฆ น.43 , 0-3 บรูโน น.45+1 , 0-4 เซดริค บากัมบู น.49 , 1-4 บอเร็ก ด็อคคาล น.65 , 2-4ลาดิสลาฟ เครจ์ซี น.71]
เซบีญา 1-2 แอธ.บิลเบา (รวม 2 นัด เสมอกัน 3-3 เซบีญา ชนะจุดโทษ 5-4)
[0-1 อาริตซ์ อาดูริซ น.57 , 1-1 เควิน กาเมโร น.59 , 1-2 ราอูล การ์เซีย น.80]